เนื่องจากหลอด LED เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีความแตกต่างจากหลอดไฟทั่วไปที่คุ้นเคยผู้บริโภคควรมีความรู้และศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนโดยใช้ขั้นตอนการเลือกซื้อง่ายๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1
พิจารณาโคมไฟที่ใช้ว่าสามารถใส่หลอดชนิดใดมีขั้วรับหลอดเป็นแบบใดและพิจารณาระบบไฟฟ้าว่ามีการต่อวงจรไฟฟ้าเป็นอย่างไรและมีอุปกรณ์ประกอบใดบ้าง (เช่นหม้อแปลงสวิตช์หรี่ไฟเป็นต้น) โคมไฟบางรุ่นมีอุปกรณ์ประกอบมาพร้อมกับโคมหรือบางครั้งติดตั้งแยกไว้ต่างหาก
ขั้นตอนที่ 2
เลือกหลอด LED ที่มีรูปทรงขนาดรวมทั้งขั้วหลอดที่สามารถใส่ในโคมไฟได้โดยรูปทรงขนาดและขั้วหลอดควรเป็นไปตามมาตรฐานพร้อมทั้งศึกษาข้อจำกัดของหลอด LED ซึ่งอาจระบุบนผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามจากพนักงานว่าสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ประกอบหรือวงจรไฟฟ้าที่มีอยู่ได้หรือไม่สามารถปรับหรี่ได้หรือไม่หรือมีข้อจำกัดใดบ้างหมายถึงดูคำอธิบายเพิ่มเติมจากหัวข้อเกณฑ์การพิจารณาคุณภาพของหลอด LED
ขั้นตอนที่ 3
พิจารณาคุณภาพของหลอดว่าได้มาตรฐานหรือสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย และไม่เกิดปัญหาในการใช้งาน
ขั้นตอนที่ 4
พิจารณาคุณภาพของแสงว่าใกล้เคียงกับหลอดทั่วไปที่ต้องการใส่แทนหรือเป็นไปอย่างที่ต้องการหรือไม่โดยพิจารณาจากปริมาณแสงหรือความเข้มแสงตามแต่ชนิดของหลอดลักษณะการกระจายแสงของหลอดสีของแสงและความถูกต้องของสีของวัตถุ
ขั้นตอนที่ 5
พิจารณาคุณสมบัติอื่นๆเช่นกำลังไฟฟ้าที่ใช้ประสิทธิภาพของหลอดอายุการใช้งานและการคงความสว่างความคงทนของหลอดความคงเส้นคงวาของสีและปัญหาสีผิดเพี้ยนเมื่อใช้เป็นเวลานานประกอบการตัดสินใจเพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้งานหลอด LED ได้อย่างสบายใจและเต็มประสิทธิภาพ หมายถึงดูคำอธิบายเพิ่มเติมจากหัวข้อเกณฑ์การพิจารณาคุณภาพของหลอด LED
ข้อมูลจาก: คู่มือการเลือกหลอด LED สำหรับผู้บริโภค เวอร์ชั่น 1.0
โดย สมาคมไฟฟ้าแสงสว่างแห่งประเทศไทย (TIEA)
http://www.tieathai.org